กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์
Phase 1: สำรวจปัจจัยสำคัญ (Research)
รู้จักตัวเอง กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม
เรียนรู้ผู้ใช้ ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการ
ศึกษาคู่แข่ง สำรวจการแข่งขันและเรียนรู้คู่แข่งขัน
Phase 2: พัฒนาเนื้อหา (Site Content)
สร้างกลยุทธ์การออกแบบ
หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
Phase 3: พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)
จัดทำระบบข้อมูล
จัดทำโครงสร้างข้อมูล
พัฒนาระบบเนวิเกชัน
Phase 4: ออกแบบและพัฒนาหน้าเว็บ (Visual Design)
ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ
พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย
Phase 5: พัฒนาและดำเนินการ (Production & Operation)
ลงมือพัฒนาเว็บเพจ
เปิดตัวเว็บไซต์
ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
การออกแบบเนวิเกเตอร์สำหรับเว็บไซต์ (Designing Web Navigator)
Phase 1: สำรวจปัจจัยสำคัญ (Research)
รู้จักตัวเอง กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม
เรียนรู้ผู้ใช้ ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการ
ศึกษาคู่แข่ง สำรวจการแข่งขันและเรียนรู้คู่แข่งขัน
Phase 2: พัฒนาเนื้อหา (Site Content)
สร้างกลยุทธ์การออกแบบ
หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
Phase 3: พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)
จัดทำระบบข้อมูล
จัดทำโครงสร้างข้อมูล
พัฒนาระบบเนวิเกชัน
Phase 4: ออกแบบและพัฒนาหน้าเว็บ (Visual Design)
ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ
พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย
Phase 5: พัฒนาและดำเนินการ (Production & Operation)
ลงมือพัฒนาเว็บเพจ
เปิดตัวเว็บไซต์
ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
การออกแบบเนวิเกเตอร์สำหรับเว็บไซต์ (Designing Web Navigator)
เนวิเกเตอร์เป็นเสมือนป้ายบอกทางให้ผู้ใช้งานไปยังหน้าเว็บเพจต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและไม่หลงทาง โดย
สามารถบอกผู้ใช้ได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ได้ผ่านที่ใดมาบ้าง หรือควรจะบอกไปทางไหนต่อ
ตัวอย่างเนวิเกเตอร์ เว็บของ Apple
ความสำคัญของการออกแบบเว็บไซต์
การออกแบบเว็บไซต์ไม่ได้หมายความแต่เพียงลักษณะหน้าตาของเว็บไซต์เพียงอย่างเดียวแต่เกี่ยวข้องตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์กลุ่มผู้ใช้การจัดการระบบข้อมูลการสร้างระบบเนวิเกชันการออกแบบหน้าเว็บซึ่งรวมไปถึงการเลือกใช้กราฟฟิค สี รูปแบบตัวอักษรเพราะในบางครั้ง เว็บไซต์ที่ดูสวยงามและมีลูกเล่นอื่นๆ มากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่ามีการออกแบบที่ดีได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การออกแบบเว็บไซต์ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับลักษณะและเป้าหมายของเจ้าของ โดยคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก
องค์ประกอบของการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี
ความเรียบง่าย (Simplicity) การสื่อสารเนื้อหาถึงผู้ใช้โดยจำกัดองค์ประกอบเสริมที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอ ให้เหลือเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เช่น อาจไม่ทำตัวอักษรวิ่งวนไปมาให้ลายตา การใช้ชนิดของตัวอักษร ไม่มากจนเกิดความวุ่นวาย หรือใช้สีตัวอักษรที่ฉูดฉาดเกินไป
ความสม่ำเสมอ (Consistency) การ ใช้รูปแบบเดียวกันตลอดทั้งไซต์ เนื่องจากผู้ใช้จะรู้สึกกับว่าเว็บไซต์เสมือนสถานที่จริง ถ้าลักษณะของแต่ละหน้าแตกต่างกันมาก ผู้ใช้จะเกิดความสับสนหรือไม่แน่ใจว่ากำลังอยู่ในเว็บเดิมหรือไม่
ความเป็นเอกลักษณ์ (Identity) การ ออกแบบควรคำนึงถึงภาพรวมขององค์กร เช่น ถ้าออกแบบเว็บไซต์เกี่ยวกับเด็ก วัยรุ่น ควรมีสีสันสดใส หรือการออกแบบเว็บไซต์ของธนาคารไม่ควรจะดูเหมือนสวนสนุก ผู้ออกแบบต้องเลือกใช้องค์ประกอบเหล่านี้อย่างเหมาะสม
เนื้อหามีประโยชน์ (Useful Content) เนื้อหา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในเว็บไซต์ ดังนั้น ควรเตรียมเนื้อหาและข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยมีการปรับปรุงเพิ่มเติมให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ
ระบบเนวิเกชันที่ใช้งานง่าย (User-Friendly Navigation) เนวิเกชันเสมือนป้ายบอกทางให้กับผู้ใช้ การออกแบบเนวิเกชัน ควรออกแบบให้วางในตำแหน่งเดียวกันของทุกๆ หน้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน
มีลักษณะที่น่าสนใจ (Visual Appeal) เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าหน้าตาของแต่ละเว็บไซต์แห่งหนึ่งแห่งใดน่าสนใจหรือ ไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบความชอบของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดีหน้าตาของเว็บไซต์จะมีความสัมพันธ์กับคุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ เช่น ภาพกราฟฟิกจะต้องสมบูรณ์ไม่เป็นรอย หรือจุดด่าง หรือมีเส้นขอบเป็นขั้นบันได การใช้โทนสีที่เข้ากันอย่างสวยงาม ตลอดจนตัวอักษรที่อ่านง่าย สบายตา เป็นต้น
การใช้งานอย่างไม่จำกัด (Compatibility) การ ออกแบบให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากที่สุด โดยไม่มีการบังคับให้ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่มเติม หรือสามารถแสดงผลได้ในทุกๆระบบปฏิบัติการที่มีความละเอียดของหน้าจอที่ต่างกันได้อย่างไม่มีปัญหา
สามารถบอกผู้ใช้ได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ได้ผ่านที่ใดมาบ้าง หรือควรจะบอกไปทางไหนต่อ
ตัวอย่างเนวิเกเตอร์ เว็บของ Apple
ความสำคัญของการออกแบบเว็บไซต์
การออกแบบเว็บไซต์ไม่ได้หมายความแต่เพียงลักษณะหน้าตาของเว็บไซต์เพียงอย่างเดียวแต่เกี่ยวข้องตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์กลุ่มผู้ใช้การจัดการระบบข้อมูลการสร้างระบบเนวิเกชันการออกแบบหน้าเว็บซึ่งรวมไปถึงการเลือกใช้กราฟฟิค สี รูปแบบตัวอักษรเพราะในบางครั้ง เว็บไซต์ที่ดูสวยงามและมีลูกเล่นอื่นๆ มากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่ามีการออกแบบที่ดีได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การออกแบบเว็บไซต์ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับลักษณะและเป้าหมายของเจ้าของ โดยคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก
องค์ประกอบของการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี
ความเรียบง่าย (Simplicity) การสื่อสารเนื้อหาถึงผู้ใช้โดยจำกัดองค์ประกอบเสริมที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอ ให้เหลือเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เช่น อาจไม่ทำตัวอักษรวิ่งวนไปมาให้ลายตา การใช้ชนิดของตัวอักษร ไม่มากจนเกิดความวุ่นวาย หรือใช้สีตัวอักษรที่ฉูดฉาดเกินไป
ความสม่ำเสมอ (Consistency) การ ใช้รูปแบบเดียวกันตลอดทั้งไซต์ เนื่องจากผู้ใช้จะรู้สึกกับว่าเว็บไซต์เสมือนสถานที่จริง ถ้าลักษณะของแต่ละหน้าแตกต่างกันมาก ผู้ใช้จะเกิดความสับสนหรือไม่แน่ใจว่ากำลังอยู่ในเว็บเดิมหรือไม่
ความเป็นเอกลักษณ์ (Identity) การ ออกแบบควรคำนึงถึงภาพรวมขององค์กร เช่น ถ้าออกแบบเว็บไซต์เกี่ยวกับเด็ก วัยรุ่น ควรมีสีสันสดใส หรือการออกแบบเว็บไซต์ของธนาคารไม่ควรจะดูเหมือนสวนสนุก ผู้ออกแบบต้องเลือกใช้องค์ประกอบเหล่านี้อย่างเหมาะสม
เนื้อหามีประโยชน์ (Useful Content) เนื้อหา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในเว็บไซต์ ดังนั้น ควรเตรียมเนื้อหาและข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยมีการปรับปรุงเพิ่มเติมให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ
ระบบเนวิเกชันที่ใช้งานง่าย (User-Friendly Navigation) เนวิเกชันเสมือนป้ายบอกทางให้กับผู้ใช้ การออกแบบเนวิเกชัน ควรออกแบบให้วางในตำแหน่งเดียวกันของทุกๆ หน้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน
มีลักษณะที่น่าสนใจ (Visual Appeal) เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าหน้าตาของแต่ละเว็บไซต์แห่งหนึ่งแห่งใดน่าสนใจหรือ ไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบความชอบของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดีหน้าตาของเว็บไซต์จะมีความสัมพันธ์กับคุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ เช่น ภาพกราฟฟิกจะต้องสมบูรณ์ไม่เป็นรอย หรือจุดด่าง หรือมีเส้นขอบเป็นขั้นบันได การใช้โทนสีที่เข้ากันอย่างสวยงาม ตลอดจนตัวอักษรที่อ่านง่าย สบายตา เป็นต้น
การใช้งานอย่างไม่จำกัด (Compatibility) การ ออกแบบให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากที่สุด โดยไม่มีการบังคับให้ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่มเติม หรือสามารถแสดงผลได้ในทุกๆระบบปฏิบัติการที่มีความละเอียดของหน้าจอที่ต่างกันได้อย่างไม่มีปัญหา
การออกแบบเนวิเกเตอร์ที่ดี
เข้าใจง่าย
มีความสม่ำเสมอ
มีการตอบสนองต่อผู้ใช้
มีความพร้อมและเหมาะต่อการใช้งาน
นำเสนอหลายทางเลือก
มีขั้นตอนสั้นและประหยัดเวลา
มีรูปที่สื่อความหมาย
มีคำอธิบายที่ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย
มีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์
สนับสนุนเป้าหมายและพฤติกรรมของผู้ใช้
การออกแบบหน้าเว็บ (Page Design)
มีความสม่ำเสมอ
มีการตอบสนองต่อผู้ใช้
มีความพร้อมและเหมาะต่อการใช้งาน
นำเสนอหลายทางเลือก
มีขั้นตอนสั้นและประหยัดเวลา
มีรูปที่สื่อความหมาย
มีคำอธิบายที่ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย
มีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์
สนับสนุนเป้าหมายและพฤติกรรมของผู้ใช้
การออกแบบหน้าเว็บ (Page Design)
หน้าเว็บเป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้จะเห็น ขณะที่เปิดเข้าสู่เว็บไซต์ และยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงประสิทธิภาพในการออกแบบเว็บไซต์
ตัวอย่าง TOT www.tot.co.th
ตัวอย่าง TOT www.tot.co.th
แนวคิดในการออกแบบหน้าเว็บ
เรียนรู้จากเว็บไซต์ต่างๆ อาจนำไอเดียจากเว็บต่างๆ มาประยุกต์ใช้
ประยุกต์รูปแบบจากสื่อสิ่งพิมพ์ อาจนำรูปแบบหรือไอเดียจากสื่อสิ่งพิมพ์ที่น่าสนใจมาเป็นแนวทาง
การออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ใช้ความความคิดของผู้ออกแบบเอง
หลักการออกแบบหน้าเว็บ
สร้างลำดับชั้นความสำคัญขององค์ประกอบ
สร้างรูปแบบ บุคลิก และสไตล์
สร้างความสม่ำเสมอตลอดทั้งเว็บไซต์
จัดวางองค์ประกอบที่สำคัญไว้ในส่วนบนของหน้าเสมอ
จัดแต่งหน้าเว็บให้เป็นระเบียบและเรียบง่าย
ใช้กราฟฟิกอย่างเหมาะสม
ส่วนประกอบของหน้าเว็บ
ส่วนหัวของหน้า (Page Header)
ส่วนของเนื้อหา (Page Body)
ส่วนท้ายของหน้า (Page Footer)
การเลือกใช้สี (Designing Web Colors)
สีสันในหน้าเว็บเพจเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้เนื่องจากสิ่งแรกที่พวกเขามองเห็นจากเว็บเพจก็คือสีการเลือกใช้สีในเว็บไซต์มีความซับซ้อนพอสมควรเริ่มตั้งแต่กระบวนการเข้าเรื่องการแสดงออกของสีภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ต่างกันของบราวเซอร์ จอมอนิเตอร์ และระบบปฏิบัติการ ตลอดจนถึงการเข้าใจทฤษฎีสี รู้จักเลือกใช้สีให้เหมาะสมเพื่อการสื่อความหมายอย่างสวยงาม
รูปแบบชุดสีพื้นฐาน (Simple Color Scheme)
เรียนรู้จากเว็บไซต์ต่างๆ อาจนำไอเดียจากเว็บต่างๆ มาประยุกต์ใช้
ประยุกต์รูปแบบจากสื่อสิ่งพิมพ์ อาจนำรูปแบบหรือไอเดียจากสื่อสิ่งพิมพ์ที่น่าสนใจมาเป็นแนวทาง
การออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ใช้ความความคิดของผู้ออกแบบเอง
หลักการออกแบบหน้าเว็บ
สร้างลำดับชั้นความสำคัญขององค์ประกอบ
สร้างรูปแบบ บุคลิก และสไตล์
สร้างความสม่ำเสมอตลอดทั้งเว็บไซต์
จัดวางองค์ประกอบที่สำคัญไว้ในส่วนบนของหน้าเสมอ
จัดแต่งหน้าเว็บให้เป็นระเบียบและเรียบง่าย
ใช้กราฟฟิกอย่างเหมาะสม
ส่วนประกอบของหน้าเว็บ
ส่วนหัวของหน้า (Page Header)
ส่วนของเนื้อหา (Page Body)
ส่วนท้ายของหน้า (Page Footer)
การเลือกใช้สี (Designing Web Colors)
สีสันในหน้าเว็บเพจเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้เนื่องจากสิ่งแรกที่พวกเขามองเห็นจากเว็บเพจก็คือสีการเลือกใช้สีในเว็บไซต์มีความซับซ้อนพอสมควรเริ่มตั้งแต่กระบวนการเข้าเรื่องการแสดงออกของสีภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ต่างกันของบราวเซอร์ จอมอนิเตอร์ และระบบปฏิบัติการ ตลอดจนถึงการเข้าใจทฤษฎีสี รู้จักเลือกใช้สีให้เหมาะสมเพื่อการสื่อความหมายอย่างสวยงาม
รูปแบบชุดสีพื้นฐาน (Simple Color Scheme)
ระบบสีที่ใช้ในการออกแบบเว็บไซต์
ระบบสี RGB (Red Green Blue) เป็นที่นิยมใช้กันสำหรับการออกแบบเว็บไซต์ โดยสีจะเกิดจากแม่สี 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน ผสมกันจะทำให้เกิดเฉดสีกว่า 16.7 ล้านสี ในการออกแบบเว็บไซต์นั้น HTML จะอาศัยการกำหนดสีพื้นหลังหรือตัวอักษร หรือลิงค์ต่างๆ โดยใช้ค่า RGB ในระบบเลขฐาน 16 ในการระบุค่าสีหนึ่งๆ
ตัวอย่าง
ระบบสี RGB (Red Green Blue) เป็นที่นิยมใช้กันสำหรับการออกแบบเว็บไซต์ โดยสีจะเกิดจากแม่สี 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน ผสมกันจะทำให้เกิดเฉดสีกว่า 16.7 ล้านสี ในการออกแบบเว็บไซต์นั้น HTML จะอาศัยการกำหนดสีพื้นหลังหรือตัวอักษร หรือลิงค์ต่างๆ โดยใช้ค่า RGB ในระบบเลขฐาน 16 ในการระบุค่าสีหนึ่งๆ
ตัวอย่าง
#FF0000 หมายถึง สีแดงที่มีความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีเขียวและสีน้ำเงิน
#00FF00 หมายถึง สีเขียวที่มีค่าความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีแดงและสีน้ำเงิน
#0000FF หมายถึง สีน้ำเงินที่มีค่าความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีแดงและสีเขียว
#00FF00 หมายถึง สีเขียวที่มีค่าความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีแดงและสีน้ำเงิน
#0000FF หมายถึง สีน้ำเงินที่มีค่าความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีแดงและสีเขียว